ลักเซมเบิร์ก ของกุนซือ เจฟฟ์ สตราสเซอร์ โดน ไอร์แลนด์เหนือ บุกชนะ 3-1 ในนัดล่าสุด แถม เซอิด โครัช กองหลังตัวหลักได้ใบแดงอีกต่างหาก เอลดิน โซโกวิช จะได้เล่นแทน
ส่วน เกอร์สัน โรดรีเกซ กองหน้าจากทีมพลังกาญจน์ เอฟซี ในไทยลีกบ้านเราที่ยังติดโทษแบนจากสมาคมฟุตบอลลักเซมเบิร์ก
ฟรานเชสโก้ คัลโซน่า พาทีมทำผลงานได้ดีมากในนัดล่าสุดที่เปิดรังพลิกชนะ เยอรมนี 2-1 จากประตูของ เดวิด ฮานช์โก้ และ เดวิด สเตรเล็ช
นัดนี้พร้อมส่งชุดเก่งนัดล่าสุดลุยต่อ เกมรับมี มิลาน สคริเนียร์ กับ เดวิด ฮานช์โก้ เป็นตัวหลัก ส่วนแดนกลางใช้ ออนเดรย์ ดูด้า, สลานิสลาฟ โลบ็อตก้า และ มาตุส เบโร่ เล่นร่วมกัน ขณะที่เกมรุกมี ลีโอ เซาเออร์ ปีกดาวรุ่งที่เด่นมากในนัดล่าสุด นำทัพ
ความพร้อมอื่น ลูคัส ฮาราสลิน บาดเจ็บต้องถอนตัว ขณะที่ เดนิส วาฟโร่ กองหลังจาก โวล์ฟสบวร์ก ก็พลาดช่วยทีมเพราะเข้ารับการผ่าตัดเมื่อเดือนที่แล้ว
(4-2-3-1) : ติอาโก้ เปเรร่า – ลอเรนท์ ยานส์, เอเนส มาห์มูโตวิช, เอลดิน โซโกวิช, เดิร์ค คาร์ลสัน – เลอันโดร บาร์เรโร่, มาเธียส โอลเซ่น – ฟลอเรียน โบห์เนิร์ต, ดาเนล ซินานี่, โทมัส โมเรร่า – ไอมาน ดาร์ดารี
(4-3-3) : มาร์ติน ดูบราฟก้า – นอร์แบร์ กียอมเบอร์, ลูโบเมียร์ ซัตก้า, มิลาน สคริเนียร์, เดวิด ฮานช์โก้ – ออนเดรย์ ดูด้า, สลานิสลาฟ โลบ็อตก้า, มาตุส เบโร่ – ดาวิด ดูริส, เดวิด สเตรเล็ช, ลีโอ เซาเออร์
: สต๊าด เดอ ลักเซมเบิร์ก
สโลวาเกียมีคุณภาพทีมโดยรวมที่เหนือกว่าลักเซมเบิร์กอย่างชัดเจน โดยเฉพาะแดนกลางที่แข็งแกร่งและเกมริมเส้นที่จี๊ดจ๊าด แม้จะต้องเล่นเป็นทีมเยือน แต่ด้วยความได้เปรียบดังกล่าว ทำให้สโลวาเกียน่าจะบุกมาเบียดคว้าชัยได้ตามคาด
